เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตด้วยเครื่องกลึง CNC แบบ Multi-Axis
ทำไมหลายอุตสาหกรรมชั้นำจึงเลือกใช้งานเครื่องกลึง CNC แบบ Multi-Axis
ปัจจุบันเราอยู่ในยุคอุตสาหกรรมที่เปลี่ยนผ่านไปเป็นยุค 4.0 ที่กระบวนการผลิตต้องการความแม่นยำสูง และ มีประสิทธิภาพที่เหนือกว่าเดิมทำให้ “เครื่องกลึง CNC แบบ Multi-Axis” ได้กลายมาเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยยกระดับการผลิต ทั้งในแง่ของความเร็ว ความแม่นยำ และ ความสามารถในการผลิตชิ้นงานที่ซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นในบทความนี้เราจะพาไปทำความเข้าใจว่าเครื่องกลึง CNC Multi-Axis คือ อะไร มีข้อดีอย่างไรเหนือเครื่องกลึงทั่วไป และ สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตได้อย่างไร เพื่อเลือกใช้งานได้อย่างเหมาะสม
ข้อมูลพื้นฐานของเครื่องกลึง CNC
ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่าเครื่องกลึง CNC คืออะไร? โดย CNC (Computer Numerical Control) คือ ระบบควบคุมเครื่องจักรผ่านคอมพิวเตอร์โดยใช้ชุดคำสั่งโปรแกรม (G-code) ซึ่งสามารถควบคุมการเคลื่อนที่ของเครื่องมือได้อย่างแม่นยำ ช่วยลดความผิดพลาดจากมนุษย์ อีกทั้งหน้าที่ของเครื่องกลึง CNC จะทำหน้าที่ตัดแต่งขึ้นรูปวัสดุโดยการหมุนชิ้นงาน (Workpiece) และ ใช้เครื่องมือตัดเฉือน (Cutting Tool) ในการกำจัดวัสดุออก เพื่อให้ได้รูปทรงตามต้องการ เช่น เพลา แกน หมุด ชิ้นส่วนท่อ ฯลฯ
เครื่องกลึง Multi-Axis CNC คืออะไร?
ต้องเข้าใจก่อนว่าความหมายของ “Multi-Axis” หมายถึง เครื่องจักรที่สามารถเคลื่อนที่ได้หลายแกนมากกว่าแบบพื้นฐาน โดยปกติเครื่องกลึง CNC แบบดั้งเดิมจะมีแค่ 2–3 แกน (X, Y, Z) แต่เครื่อง Multi-Axis เพิ่มแกนหมุนเสริม เช่น A, B, C
โดยเราจะพบว่าเครื่องกลึง CNC สามารถแบ่งออกได้ตามประเภทของ Multi-Axis CNC ทั่วไปได้ดังนี้ 3-Axis ซึ่งเคลื่อนที่ในแนว X, Y, Z (พื้นฐาน) , 4-Axis จะเพิ่มการหมุนรอบแกน A หรือ B , 5-Axis จะหมุนได้ 2 แกนเสริม เช่น A และ B / B และ C ทำให้ตัดได้หลายมุม และ แบบ 7-Axis ขึ้นไป ที่ใช้ในอุตสาหกรรมขั้นสูง เช่น อากาศยาน หุ่นยนต์ หรือ แม่พิมพ์ซับซ้อนนั้นเอง
ข้อดีของเครื่องกลึง CNC แบบ Multi-Axis
- ความแม่นยำสูงระดับไมครอน
เราจะพบว่า เครื่องกลึง CNC แบบ Multi-Axis นั้นสามารถตัดชิ้นงานได้จากหลายมุมพร้อมกัน ทำให้ลดความคลาดเคลื่อนที่เกิดจากการเปลี่ยนตำแหน่งของชิ้นงานได้ - ลดขั้นตอนการผลิต
เครื่องกลึง CNC แบบ Multi-Axis นั้นสามารถทำงานได้ในหลายๆด้านในครั้งเดียว ซึ่งจะช่วยลดการจัดตั้งชิ้นงานซ้ำ ๆ ทำให้ประหยัดเวลา และ ลดความผิดพลาดได้ - ผลิตชิ้นงานที่ซับซ้อนได้
เครื่องกลึง CNC แบบ Multi-Axis เหมาะกับชิ้นส่วนที่มีรูปทรงซับซ้อน เช่น ใบพัด กังหัน หัวฉีด หรือ แม่พิมพ์ที่มีร่องลึก และ ผิวโค้งหลายๆทิศทาง - เพิ่มอัตราการผลิต
เครื่องกลึง CNC แบบ Multi-Axis นั้นสามารถรันชิ้นงานต่อเนื่องโดยไม่ต้องหยุดบ่อย ๆ ทำให้เพิ่มปริมาณการผลิตในระยะเวลาที่จำกัดได้ - ลดต้นทุนในระยะยาว
แม้เครื่องกลึง CNC แบบ Multi-Axis จะมีต้นทุนเริ่มต้นที่สูงกว่าเครื่องแบบธรรมดาอยู่บ้าง แต่ก็ช่วยลดต้นทุนแรงงาน ลดของเสีย และ เพิ่มคุณภาพสินค้าทำให้คืนทุนได้เร็วขึ้น
การประยุกต์ใช้งานเครื่องกลึง CNC แบบ Multi-Axis ในอุตสาหกรรมต่างๆ
- อุตสาหกรรมยานยนต์
ในการใช้เครื่องกลึง CNC แบบ Multi-Axis นั้นเหมาะกับการกลึงชิ้นส่วนเพลาขับ เฟือง ชุดลูกสูบต่างๆ ที่จะช่วยลดเวลาในการผลิตชุดอุปกรณ์เพลาร่วมถึงชิ้นส่วนที่มีความซับซ้อน - อุตสาหกรรมการบิน และ อวกาศ
ในอุตสาหกรรมการบินนั้นมักใช้เครื่องกลึง CNC แบบ Multi-Axis ผลิตชิ้นส่วนใบพัด, น๊อตพิเศษ, ตัวยึดที่มีโครงสร้างที่มีรูปทรงซับซ้อน ซึ่งต้องการความแม่นยำระดับสูง และ น้ำหนักเบา - อุตสาหกรรมแม่พิมพ์
เครื่องกลึง CNC แบบ Multi-Axis สามารถขึ้นรูปแม่พิมพ์โลหะที่มีรายละเอียดสูงได้ เช่น พิมพ์ขวด, พิมพ์ยาง โดยจะตอบโจทย์การผลิตแม่พิมพ์ต้นแบบ และ แม่พิมพ์ซ้ำจำนวนมากได้ - อุตสาหกรรมทางการแพทย์
ในการผลิตอุปกรณ์ศัลยกรรมเฉพาะบุคคลนั้นมักใช้เครื่องกลึง CNC แบบ Multi-Axisในกระบวนการผลิต เช่น ข้อต่อเหล็ก ฝังฟันเทียม ซึ่งต้องการความละเอียดสูง และ ผิวสำเร็จที่เรียบลื่น
ข้อควรรู้ก่อนลงทุนในเครื่องกลึง CNC แบบ Multi-Axis
- ราคาสูง ควรประเมิน ROI
ในการเลือกใช้ เครื่องกลึง CNC แบบ Multi-Axis นั้นต้องเปรียบเทียบมูลค่าการเพิ่มผลผลิต/ลดต้นทุน กับ ราคาลงทุน เช่น หากผลิตชิ้นงานจำนวนมาก หรือ ซับซ้อน ROI จะสูง และ คุ้มค่าไหม - ต้องมีทีมโปรแกรมเมอร์ CNC ที่มีความรู้
ในการเขียนโปรแกรม G-code สำหรับ เครื่องกลึง CNC แบบ Multi-Axis นั้นต้องใช้ซอฟต์แวร์ CAM ที่รองรับ เช่น Mastercam, Fusion 360 และ ต้องมีพนักงานที่เข้าใจมิติการเคลื่อนไหวหลายแกนอย่างดี - ต้องดูความพร้อมของระบบ CAD/CAM
เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้งาน เครื่องกลึง CNC แบบ Multi-Axis ควรเชื่อมกับระบบ CAD/CAM แบบครบวงจร ที่มีการซิงก์ไฟล์งาน และ ข้อมูลเครื่องจักรอย่างแม่นยำ
จากที่กล่าวมาทั้งหมดจะเห็นว่าเครื่องกลึง CNC แบบ Multi-Axis นั้นคือคำตอบของการผลิตยุคใหม่ ที่ต้องการทั้ง ความเร็ว ความแม่นยำ และ ความยืดหยุ่น ในการสร้างชิ้นงานที่ซับซ้อน โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่ต้องการมาตรฐานสูง เช่น ยานยนต์ การบิน แม่พิมพ์ และ ทางการแพทย์ โดยแม้ต้นทุนเริ่มต้นอาจสูงอยู่บ้าง แต่เมื่อวิเคราะห์ถึงผลลัพธ์ในระยะยาวแล้ว Multi-Axis CNC ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า ที่จะช่วยผลักดันให้ธุรกิจเข้าสู่ระบบอัตโนมัติ และ แข่งขันในระดับสากลได้อย่างมั่นใจ
หากสนใจเครื่องกลึง CNC แบบ Multi-Axisที่มีคุณภาพนั้นเราขอแนะนำ J Tech Machinery คือ ผู้นำเข้า และตัวแทนจำหน่ายเครื่องจักรกลที่ครบครัน และ ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย เราเชี่ยวชาญในเครื่องจักรกลหลากหลายประเภท เช่น เครื่องกลึง CNC (CNC Machine), เครื่องกัด CNC, เครื่อง 3D Scanner, เครื่องไวร์คัท, เครื่องฉีดพลาสติก และ เครื่องมือวัด 3 มิติ CMM (3D Measuring Tools) ที่ตอบโจทย์สำหรับหลากหลายอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมรถยนต์, อากาศยาน, อุปกรณ์การแพทย์, จักรกลการเกษตร, การก่อสร้าง, พลังงาน, เครื่องใช้ไฟฟ้า, บรรจุภัณฑ์ และ แม่พิมพ์ชนิดต่างๆ นั้นเอง
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่
บริษัท เจ เทค แมชชีนเนอรี่ จำกัด
22/86 ซอยกรุงเทพกรีฑา 7 แยก 4 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ 10240
Website : https://www.jtechmachinery.com
Line: @j-tech
E-mail : Info@jtechmachinery.com
เบอร์โทรศัพท์
สำนักงาน : 02-187-0963
คุณอาร์ต : 090-016-1955
คุณเอ๋ : 099-178-5500