เครื่อง 5 Axis Machining เหมาะกับอุตสาหกรรมอะไรบ้าง

หากจะพูดถึงในยุคปัจจุบันที่เทคโนโลยีการผลิตได้ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว เครื่องจักรกลที่ควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์ (CNC) ได้กลายเป็นหัวใจสำคัญของอุตสาหกรรมการผลิตสมัยใหม่ โดยเฉพาะเครื่อง 5 AxisMachining Center หรือ เครื่องจักร CNC ที่สามารถเคลื่อนที่ได้ 5 แกน ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่ช่วยปฏิวัติกระบวนการผลิตให้มีความแม่นยำสูง รวดเร็ว และ สามารถจัดการชิ้นงานที่มีความซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเครื่อง 5 Axis Machining ได้มีความสามารถในการเคลื่อนที่ในแนวเส้นตรง 3 แกน (X, Y, Z) และ หมุนรอบแกนเพิ่มเติมอีก 2 แกน (A และ C หรือ B) ทำให้สามารถผลิตชิ้นงานที่มีรูปทรงซับซ้อนได้ในครั้งเดียวโดยไม่ต้องเปลี่ยนตำแหน่งชิ้นงานหลายครั้ง ดังนั้นบทความนี้เราจะมาสำรวจอุตสาหกรรมที่เหมาะสมสำหรับการใช้เครื่อง 5 AxisMachining รวมถึงประโยชน์ คุณสมบัติ และ ตัวอย่างการประยุกต์ใช้ในแต่ละอุตสาหกรรมกัน

ทำความเข้าใจเกี่ยวกับเครื่อง 5 Axis Machining

โดยก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่าเครื่อง 5 Axis Machining คืออะไร? โดยเครื่อง 5 Axis Machining Center คือ เครื่องจักร CNC ที่สามารถควบคุมการเคลื่อนที่ได้ 5 แกนพร้อมกัน ได้แก่ แกน X: เคลื่อนที่ในแนวนอน (ซ้าย-ขวา) , แกน Y: เคลื่อนที่ในแนวหน้า-หลัง , แกน Z: เคลื่อนที่ในแนวดิ่ง (ขึ้น-ลง) , แกน A: หมุนรอบแกน X และ แกน C: หมุนรอบแกน Z (หรือแกน B หมุนรอบแกน Y ในบางรุ่น) นั้นเอง

ซึ่งการเคลื่อนที่พร้อมกันของทั้ง 5 แกนจะช่วยให้เครื่องสามารถเข้าถึงชิ้นงานจากหลายมุมได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนตำแหน่งชิ้นงาน ส่งผลให้สามารถผลิตชิ้นงานที่มีรูปทรงซับซ้อน เช่น รูปทรงโค้ง ร่องลึก หรือมุมที่เข้าถึงยาก (undercut) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เครื่อง 5 Axis ยังมาพร้อมเทคโนโลยีอัจฉริยะ เช่น ระบบปรับตั้งอัตโนมัติ (5-Axis Auto Tuning) และ ระบบป้องกันการชน (Collision Avoidance System) ซึ่งช่วยเพิ่มความแม่นยำ และ ความปลอดภัยในการผลิตชิ้นงานอีกด้วย

อุตสาหกรรมใดบ้างที่เหมาะกับการใช้เครื่อง 5 Axis Machining

เราจะพบว่าเครื่อง 5 Axis Machining นั้นได้มีการใช้งานอย่างแพร่หลายในหลายๆอุตสาหกรรม เนื่องจากความสามารถในการจัดการชิ้นงานที่มีความซับซ้อน และ ต้องการความแม่นยำสูง โดยต่อไปนี้คืออุตสาหกรรมหลักที่ได้รับประโยชน์จากการใช้เครื่อง 5 AxisMachining ได้แก่

1. อุตสาหกรรมการบิน และ อวกาศ (Aerospace Industry)
   อุตสาหกรรมการบิน และ อวกาศนั้นเป็นหนึ่งในผู้ใช้งานหลักของเครื่อง 5 Axis Machining เนื่องจากชิ้นส่วนในอุตสาหกรรมนี้มักมีรูปทรงซับซ้อน และ ต้องการความแม่นยำสูงมาก เช่น ใบพัดกังหัน (Turbine Blades): ที่ต้องการชิ้นส่วนที่มีรูปทรงโค้งซับซ้อน และ ต้องทนต่อความร้อน และ แรงดันสูง , ชิ้นส่วนโครงสร้างเครื่องบิน เช่น ปีกเครื่องบิน หรือ ส่วนประกอบของเครื่องยนต์เจ็ทที่ต้องการความแม่นยำในระดับสูง และ ชิ้นส่วนที่มีมุมเอียง หรือ ร่องลึก เช่น ชิ้นส่วนที่มีการออกแบบแบบ undercut ซึ่งเครื่อง 3 แกนทั่วไปไม่สามารถทำได้ โดยเครื่อง 5 Axisจะช่วยลดเวลาในการเซ็ทอัพชิ้นงาน และ เพิ่มความแม่นยำในการตัดเฉือน ทำให้เหมาะสำหรับการผลิตชิ้นส่วนที่มีความสำคัญต่อความปลอดภัย เช่น ชิ้นส่วนในเครื่องยนต์เจ็ท หรือ ระบบนำทางนั้นเอง
   
   
2. อุตสาหกรรมยานยนต์ (Automotive Industry)
   ในอุตสาหกรรมยานยนต์ เครื่อง 5 AxisMachining ได้ถูกใช้งานในการผลิตชิ้นส่วนที่มีความซับซ้อนและ ต้องการความแม่นยำสูง เช่น แม่พิมพ์ยานยนต์ (Automotive Molds) เช่น แม่พิมพ์สำหรับตัวถังรถยนต์ หรือ ชิ้นส่วนภายใน , ชิ้นส่วนเครื่องยนต์ เช่น หัวสูบ หรือ เพลาข้อเหวี่ยงที่ต้องการความแม่นยำสูง และ ชิ้นส่วนที่มีรูปทรงโค้ง เช่น ชิ้นส่วนสำหรับระบบกันสะเทือน หรือ ชิ้นส่วนตกแต่งที่มีดีไซน์ซับซ้อน เป็นต้น โดยเครื่อง 5 Axis จะช่วยลดเวลาในการผลิต และ เพิ่มคุณภาพผิวงาน ทำให้สามารถผลิตชิ้นส่วนที่มีความทนทาน และ สวยงาม เหมาะสำหรับการผลิตทั้งในปริมาณมาก (mass production) และ การผลิตชิ้นส่วนสั่งทำพิเศษ
   
   
3. อุตสาหกรรมการแพทย์ (Medical Industry)
   อุตสาหกรรมการแพทย์นั้นจำเป็นต้องการชิ้นส่วนที่มีความแม่นยำสูง และ คุณภาพผิวที่ดี เนื่องจากชิ้นส่วนเหล่านี้มักใช้ในร่างกายมนุษย์ หรือ ในอุปกรณ์ทางการแพทย์ เช่น ข้อต่อเทียม (Prosthetic Joints) เช่น ข้อเข่าเทียม หรือ ข้อสะโพกเทียมที่ต้องการความแม่นยำในระดับไมครอน , อุปกรณ์ดามกระดูก (Orthopedic Implants) เช่น แผ่นดามกระดูก หรือ สกรูที่ต้องมีขนาดและรูปทรงที่แม่นยำ และ เครื่องมือผ่าตัด เช่น มีดผ่าตัด หรือ อุปกรณ์ที่มีรูปทรงซับซ้อน ซึ่งเครื่อง 5 Axis นั้นสามารถผลิตชิ้นส่วนที่มีความซับซ้อน และ มีผิวงานที่เรียบเนียนได้ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญต่อการใช้งานในร่างกายมนุษย์ โดยลดความเสี่ยงจากความคลาดเคลื่อนในกระบวนการผลิตนั้นเอง
   
   
4. อุตสาหกรรมแม่พิมพ์ และ งานหล่อ (Mold and Die Industry)
   อุตสาหกรรมแม่พิมพ์ และ งานหล่อนั้นเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ใช้เครื่อง 5 Axis อย่างแพร่หลาย เนื่องจากแม่พิมพ์มักมีรูปทรงที่ซับซ้อน เช่น แม่พิมพ์หน้ายางรถยนต์ ที่ต้องมีร่อง และ ลายที่ซับซ้อนเพื่อให้ยางรถยนต์มีประสิทธิภาพ , แม่พิมพ์สำหรับชิ้นส่วนพลาสติก เช่น ชิ้นส่วนในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ หรือ เครื่องใช้ไฟฟ้า และ แม่พิมพ์สำหรับงานประติมากรรม เช่น แม่พิมพ์สำหรับงานตกแต่ง หรือ ชิ้นงานศิลปะ นั้นเอง โดยเครื่อง 5 Axis ช่วยลดเวลาในการผลิตแม่พิมพ์ และ ลดขั้นตอนการเก็บผิวงาน (finishing) ทำให้สามารถผลิตแม่พิมพ์ที่มีความซับซ้อนได้ในเวลาอันสั้น
   
   
5. อุตสาหกรรมพลังงาน (Energy Industry)
   อุตสาหกรรมพลังงาน โดยเฉพาะพลังงานหมุนเวียน เช่น พลังงานลม หรือ พลังงานน้ำ มักใช้เครื่อง 5 Axis ในการผลิตชิ้นส่วนที่มีขนาดใหญ่ และ ซับซ้อน เช่น ใบพัดกังหันลม (Wind Turbine Blades)ที่ต้องการความแม่นยำในการตัดเฉือนเพื่อให้มีประสิทธิภาพตามหลักอากาศพลศาสตร์ , ชิ้นส่วนกังหันน้ำ เช่น ใบพัดในเขื่อนผลิตไฟฟ้า และ ชิ้นส่วนในเครื่องยนต์ก๊าซ (Gas Turbine Components) ที่ต้องทนต่อความร้อน และ ความดันสูง เป็นต้น โดย เครื่อง 5 Axis จะช่วยให้สามารถผลิตชิ้นส่วนขนาดใหญ่ที่มีรูปทรงโค้ง และ ต้องการความแม่นยำสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
   
   
6. อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (Electronics Industry)
   ในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ นั้นมักมีชิ้นส่วนขนาดเล็กที่ต้องมีความแม่นยำสูง เช่น ชิ้นส่วนในโทรศัพท์มือถือ หรือ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นที่ต้องการอย่างมาก โดยเครื่อง 5 Axis สามารถ ผลิตชิ้นส่วนที่มีขนาดเล็ก และ มีมุมโค้ง หรือ ร่องที่ซับซ้อนได้ อีกทั้งยังรองรับการผลิตในปริมาณมาก (mass production) ด้วยความเร็ว และ ความแม่นยำสูง และ ช่วยลดการใช้เครื่องมือหลายชิ้นในการผลิตชิ้นส่วนที่มีความซับซ้อนได้อีกด้วย
   
   
7. อุตสาหกรรมเรือ และ การเดินเรือ (Marine Industry)
   ในอุตสาหกรรมการเดินเรือจะเห็นได้ว่าเครื่อง 5 Axisได้ถูกนำไปใช้ในการผลิตชิ้นส่วนที่มีขนาดใหญ่และ มีรูปทรงซับซ้อน เช่น ใบพัดเรือ (Propellers) ที่ต้องการความแม่นยำเพื่อให้มีประสิทธิภาพตามหลักไฮโดรไดนามิก , ชิ้นส่วนโครงสร้างเรือ เช่น ส่วนประกอบที่มีรูปทรงโค้ง หรือ ต้องการการตัดเฉือนที่ซับซ้อน โดยจะพบว่าเครื่อง 5 Axis ได้ช่วยให้สามารถผลิตชิ้นส่วนที่มีขนาดใหญ่ และ มีผิวงานที่มีคุณภาพสูงได้ในครั้งเดียว

ดังนั้นจากที่กล่าวมาจะพบว่าเครื่อง 5 AxisMachining เป็นเทคโนโลยีที่ปฏิวัติวงการการผลิตด้วยความสามารถในการจัดการชิ้นงานที่มีความซับซ้อน และ ต้องการความแม่นยำสูง ซึ่งอุตสาหกรรมที่เหมาะสม ได้แก่ การบินและอวกาศ ยานยนต์ การแพทย์ แม่พิมพ์ และ งานหล่อ พลังงาน อิเล็กทรอนิกส์ และ การเดินเรือ โดยเครื่อง 5 Axis Machiningจะช่วยลดเวลา และ ต้นทุนในการผลิต เพิ่มคุณภาพผิวงาน และ รองรับการผลิตที่หลากหลาย แม้จะมีข้อท้าทาย เช่น ต้นทุนที่สูง และ ความต้องการแรงงานที่มีทักษะ แต่ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยี เช่น ระบบอัตโนมัติ ทำให้เครื่อง 5 Axisจะยังคงเป็นเครื่องมือสำคัญในการยกระดับอุตสาหกรรมการผลิตในอนาคต

ดังนั้นหากสนใจในเครื่อง 5 Axis Machining เราขอแนะนำ J Tech Machinery คือ ผู้นำเข้า และตัวแทนจำหน่ายเครื่องจักรกลที่ครบครัน และ ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย เราเชี่ยวชาญในเครื่องจักรกลหลากหลายประเภท เช่น เครื่องกลึง CNC (CNC Machine), เครื่อง 5 Axis Machiningเ, เครื่อง 3D Scanner, เครื่องไวร์คัท, เครื่องฉีดพลาสติกและ เครื่องมือวัด 3 มิติ CMM (3D Measuring Tools) ที่ตอบโจทย์สำหรับหลากหลายอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมรถยนต์, อากาศยาน, อุปกรณ์การแพทย์, จักรกลการเกษตร, การก่อสร้าง, พลังงาน, เครื่องใช้ไฟฟ้า, บรรจุภัณฑ์ และ แม่พิมพ์ชนิดต่างๆ นั้นเอง

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่

บริษัท เจ เทค แมชชีนเนอรี่ จำกัด
22/86 ซอยกรุงเทพกรีฑา 7 แยก 4 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ 10240

Website : https://www.jtechmachinery.com
Line: @j-tech
E-mail : Info@jtechmachinery.com 

เบอร์โทรศัพท์
สำนักงาน : 02-187-0963
คุณอาร์ต : 090-016-1955
คุณเอ๋ : 099-178-5500